post-pregnancy RSS

babyfun, post-pregnancy, พัฒนาการลูกน้อย -

การเลี้ยงดูลูกให้เติบโตอย่างเเข็งแรง ร่าเริงแจ่มใสและมีความฉลาดล้ำเป็นเลิศ คือสิ่งที่คุณแม่ทุกคนปรารถนา และโดยเฉพาะเรื่องความฉลาดของลูก หากคุณแม่เข้าใจการทำงานของสมองเด็ก จะพบว่าความสามารถในการเรียนรู้ของลูกนั้นสร้างได้ตั้งแต่แรกเกิด และมีข้อมูลที่น่าสนใจจาก รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงทิพวรรณ หรรษคุณาชัย กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการเด็ก  ท่านได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของสมองเด็กไว้ว่า “เด็กทุกคนเกิดมาพร้อมกับหนึ่งแสนล้านเซลล์สมอง ซึ่งทั้งหมดเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายวงจรและสามารถเพิ่มจำนวนมากขึ้นเมื่อถูกกระตุ้น ทั้งนี้การเชื่อมต่อสามารถเกิดได้สูงถึง 1,000 ล้านล้านครั้งในระยะเวลาแรกเกิดถึงห้าปีแรกของลูก ช่วงวัยนี้จึงเป็นระยะเวลาที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ และเมื่อพ้นช่วงวัยนี้ไปแล้ว จะไม่มีการเพิ่มเซลล์สมอง แต่เป็นการพัฒนาโครงข่าย ส่วนเซลล์สมองที่ไม่ได้รับการกระตุ้นก็จะเสื่อมสลายไป ดังนั้นการสร้างทุกนาทีให้เป็นการเรียนรู้ของลูก (Non-Stop Learning) จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องช่วยกันส่งเสริมในโอกาสทองนี้” และสิ่งที่น่าสนใจ  7 เรื่องเกี่ยวกับสมองถัดไปนี้ จะช่วยให้คุณแม่เข้าใจแนวทางในการส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อสร้างความเป็นอัจฉริยภาพของลูกน้อย 1.การสัมผัสและการหัวเราะช่วยพัฒนาสมอง ช่วงแรกเกิดเป็นช่วงที่เส้นใยประสาทของลูกกำลังก่อตัว การกอด การสัมผัส สบตา รวมถึงพูดคุยกับลูก  ให้เค้ามีความสุข ได้หัวเราะ จะช่วยเพิ่มสารอ๊อกซิโตซินและเอนดอร์ฟินในสมอง ทำให้เป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตดี สมองทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ในการตรงกันข้าม มีผลสำรวจที่ค่อนข้างน่าตกใจว่า เด็กที่ไม่ค่อยได้เล่น ไม่ได้รับการสัมผัสจากพ่อแม่ จะมีสมองขนาดเล็กกว่าเด็กปกติ 20-30% 2.สมองเรียนรู้จากการเลียนแบบ ในสมองของเด็กจะมีเซลล์ชนิดหนึ่ง ชื่อว่า “เซลล์สมองกระจกเงา” (Mirror Neuron) ซึ่งเป็นเซลล์ที่สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ผ่านการเรียนรู้ การสังเกต และเลียนแบบผู้อื่น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณแม่เป็นคนใฝ่รู้ ชอบอ่านหนังสือ ภาพเหล่านี้ก็สะท้อนเข้าไปในสมองของลูก ส่งผลให้เค้าเป็นเด็กที่ชอบเรียนรู้ เช่นกัน เพราะสำหรับลูกน้อยแล้ว กระจกเงาการเรียนรู้ที่ใกล้ตัวที่สุดก็คือคุณแม่นั่นเอง 3.อารมณ์ส่งผลต่อศักยภาพในการเรียนรู้ ร่างกายของลูกช่างน่าอัศจรรย์  หากเค้ามีความสุข ร่างกายจะหลั่งสารเคมีในสมองที่ช่วยกระตุ้นให้เรียนรู้และจดจำได้ดี ในทางกลับกัน หากคุณแม่เป็นคนหงุดหงิดง่าย เลี้ยงลูกด้วยอารมณ์ ทำให้เด็กมีความเครียดหรือซึมเศร้า อารมณ์เชิงลบทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลให้ความสามารถในการเรียนรู้ของสมองลดลง 4.การเล่นช่วยพัฒนาความเป็นอัจฉริยะ การเล่นกับลูก คือวิธีที่ง่ายที่สุดที่คุณแม่จะช่วยสร้างความฉลาดให้ลูกน้อย เคล็ดลับอยูที่เลือกการเล่นให้เหมาะสมกับพัฒนาการตามวัย ประสบการณ์ที่ลูกน้อยได้จากการเล่น ทั้งการจับ การหยิบ การสัมผัส ล้วนส่งผลต่อการพัฒนาสมองในทุกๆ ด้าน อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นใยสมองและจุดเชื่อมต่อในสมองให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาความเป็นอัจฉริยะของลูก 5.การอ่านหนังสือช่วยกระตุ้นเซลล์สมอง เมื่อเด็กอ่านหนังสือ เซลล์สมองจะมีการเชื่อมต่อและแตกแขนงออกไป เกิดกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาประสาทสัมผัสต่างๆ โดยเฉพาะทางตาและทางหู ส่งผลให้เด็กที่ชอบอ่านหนังสือมีความชาญฉลาดและสามารถเรียนรู้ได้อย่างดีเยี่ยม 6.ขนาดสมองเท่ากันแต่ความฉลาดต่างกัน ถ้าเปรียบเทียบสมองของเด็กสองคน แม้ว่าจะมีขนาดสมองเท่ากัน แต่กลับมีฉลาดแตกต่างกัน นั่นเป็นเพราะปริมาณการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง คุณแม่สามารถส่งเสริมให้เซลล์สมองของลูกเกิดการเชื่อมต่อได้ตั้งแต่แรกเกิดด้วยการให้นมแม่ เพราะนมแม่มีสารอาหารที่ดีต่อสมองอยู่มากมาย เช่น...

Read more

babyfun, cutebaby, post-pregnancy, พัฒนาการลูกน้อย -

สิ่งที่สำคัญที่สุดขอวัยเด็ก ก็คือ การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ ถึงแม้บางเวลา สภาพอากาศหรือสิ่งแวดล้อมอาจทำให้ลูกน้อยไม่สบายตัว แต่อย่ากังวลไปค่ะ เรามีเทคนิคกล่อมเด็กมากมายมาฝากคุณพ่อคุณแม่ เพื่อให้ลูกน้อยนั้นหลับง่ายกว่าเิดิมค่ะ   เทคนิคการกล่อมเด็กให้หลับง่าย     ควบคุมระดับเสียงในบ้าน   ไม่ให้มีเสียงดังจนเกินไป เปิดเพลงกล่อมเด็กเบาๆซึ่งเป็นการกล่อมเด็กให้นอนได้ดีไม่น้อย   การให้ความรักความอบอุ่นกับลูกน้อย ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้เด็กคุ้นเคยกับคุณพ่อคุณแม่   ลูบบนร่างกายของเด็ก บริเวณท้ายทอย บริเวณหน้าผากจะช่วยให้เด็กนอนหลับได้เร็วขึ้น   ไกวเปล ช่วยทำให้เด็กนอนหลับได้ง่ายโดยเพิ่มตัวช่วยด้วยการแขวนโมบายไว้ด้านบน   หยดน้ำหอมที่คุณแม่ใช้เป็นประจำ ที่มุมของผ้าห่มของเด็กจะช่วยให้เด็กหลับได้ เพราะเด็กจะรู้สึกถึงความอบอุ่นเหมือนคุณแม่อยู่ใกล้ๆตลอดเวลา   เหน็บชายผ้าห่มให้รัดตัวเด็ก จะช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับอยู่ในครรภ์มารดาวิธีนี้ช่วยให้เด็กนอนหลับได้อย่างยาวนาน           ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.care.co.th              รูปภาพจาก  http://www.vcharkarn.com

Read more

babyfun, cutebaby, post-pregnancy, สุขภาพ -

  มะเขือเทศ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Lycopersicon esculentum Mill.) เป็นพืชชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มะเขือเทศขนาดปานกลางจะมีปริมาณวิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งผล มะเขือเทศผลหนึ่งจะมีวิตามินเอราว 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีโปแตสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียมและแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด มะเขือเทศมีสารที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ดังนั้นจึงใช้เป็นยารักษาโรคที่เกี่ยวกับปากที่เกิดจากเชื้อราได้ มะเขือเทศมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ คือ ไลโคปีน ที่มีคุณสมบัติสามารถลดการเกิดมะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมากได้ หากทานมะเขือเทศ 10 ครั้ง/สัปดาห์ จะช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45% นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีบีตา-แคโรทีน และฟอสฟอรัสมาก ที่มะเขือเทศมีรสชาติอร่อยนั้น เพราะมีกรดอะมิโนที่ชื่อกลูตามิคสูง กรดอะมิโนนี้เองเป็นตัวเพิ่มรสชาติให้อาหาร ทั้งยังเป็นกรดอะมิโนตัวเดียวกับที่อยู่ในผงชูรสด้วย รักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง โดยใช้น้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรืออาจจะนำมะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ แปะบนใบหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าอ่อนนุ่ม ในผลมะเขือเทศมีสารจำพวก แคโรทีนอยด์ ชื่อไลโคพีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารสีแดง และวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเค โดยเฉพาะวิตามินเอ และวิตามินซี มีในปริมาณสูง มีกลดมาลิค กรดซิตริก ซึ่งให้รสเปรี้ยว และมีกลูตามิค (Glutamic) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหาร นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารบีตา-แคโรทีน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เป็นต้น มะเขือเทศมีสรรพคุณทางยาค่อนข้างสูง เพราะมะเขือเทศมี วิตามินพี (citrin) ซึ่งจะช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด มะเขือเทศยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะจึงสามารถแก้อาการความดันโลหิตสูงมะเขือเทศมีวิตามินเอจึงสามารถรักษาโรคตาได้ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือมีวิตามินซีมากทำให้สามารถป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิด ช่วยระบบการย่อยและช่วยการขับถ่ายอุจจาระอีกด้วย ช่วยบำรุงผิวลดริ้วรอย ผิวพรรณไม่แห้งกร้าน ระบบการหมุนเวียนเลือดดีขึ้น และยังสามารถต้านมะเร็งได้ด้วย ซอสมะเขือเทศสามารถนำมาใช้หมักผมได้ โดยจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนไปของสีผมอันเนื่องมาจากการว่ายในน้ำในสระที่มีคลอรีน และยังนำมาใช้ขัดเครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของคุณให้เงางามได้เหมือนเดิม [1] ประโยชน์ของมะเขือเทศ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส ไม่แห้งกร้าน มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรัยแห่งวัย น้ำมะเขือเทศช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง มีวิตามินเอซึ่งมีส่วนชวยบำรุงสายตา มะเขือเทศ มีบีตาแคโรทีน และฟอสฟอรัสในปริมาณมาก มะเขือเทศช่วยในการรักษาสิว ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้า หรือฝานบางๆแล้วนำมาแปะหน้าก็ได้ ช่วยทำให้ผิวหน้าเต่งตึงสดใส...

Read more

post-pregnancy, นมเเม่ -

101 เหตุผลกับ นมแม่1.สมาคมกุมารแพทย์อเมริกัน แนะนำ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่2.สถาบันโภชนาการศาตร์สหรัฐอเมริกาส่งเสริม การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่3.นมแม่ ย่อยง่ายกว่า นมผสมเนื่องจากน้ำนมวัวมีโปรตีนเป็นสองเท่าของน้ำนมคน เด็กกินนมผสมจึงมักจะได้รับโปรตีนมากเกินกว่าที่พวกเขาต้องการ (และส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของโปรตีนที่ย่อยยากอย่างเคซีน) อุจจาระของเด็กกินนมผสมจะมีปริมาณมากกว่าเพราะทารกไม่สามารถดูดซึมโปรตีนได้ทั้งหมด และกำจัดส่วนเกินออกมาทางอุจจาระ ในขณะที่เด็กกิน นมแม่จะดูดซึมเกือบทั้ง 100% ของโปรตีนในน้ำนมคน4.การไม่ให้ลูกดูดนมจากอกแม่เพิ่มความเสี่ยงของแม่ในการเป็นมะเร็งเต้านม5.การที่เด็กทารกดูดนมจากอกแม่ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว6.การเลี้ยงลูกด้วยนมผสม เพิ่มความเสี่ยงของเด็กทารกหญิงในการเป็นมะเร็งเต้านมเมื่อโตขึ้น7.การเลี้ยงลูกด้วยนมผสม มีผลให้เด็กมีภาวะสติปัญญาต่ำกว่าเลี้ยงด้วย นมแม่8.นมแม่ พร้อมดื่มอยู่เสมอ และบรรจุอยู่ในภาชนะที่สวยงามกว่า นมผสม9.นมแม่ ช่วยกำจัดของเสียออกจากระบบขับถ่ายของทารกแรกเกิด10.นมแม่ มีภูมิต้านทานโรคและช่วยในการพัฒนาระบบภูมิต้านทานในเด็กทารก11.การให้ลูกดูดลูกจากอกแม่ตอบสนองความต้องการทางอารมณ์ของลูก และเพิ่มความผูกพันธ์ระหว่างแม่และลูก12.นมแม่ มีสารอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทารก13.การไม่ให้ลูกดูดนมจากอกแม่ เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งที่รังไข่14.การให้นมลูกช่วยให้แม่ลดน้ำหนักหลังคลอดบุตรได้อย่างรวดเร็ว15.แม่ที่คลอดก่อนกำหนดจะมีน้ำนมพิเศษ (Pre-term milk) ซึ่งเหมาะสำหรับทาีรกที่คลอดก่อนกำหนด16.องค์การอนามัยโลกและองค์การยูนิเซฟแนะนำให้ เลี้ยงลูกด้วยนมแม่17.การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติในลำไส้18.การดื่มนมผสมเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานในเด็ก19.เด็กกิน นมแม่ ช่วยลดความต้องการอินซูลินในแม่ที่เป็นโีรคเบาหวาน20.การดื่มนมผสมเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคภูมิแพ้ในเด็กทารก21.นมแม่ ลดความเสี่ยงที่เด็กจะเป็นโรคหอบหืด22.นมผสม เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อทางหูในทารก23.เด็กกินนมผสมมีความเสี่ยงสูงกว่าในการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิดในช่วงวัยเด็ก24.การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ป้องกันเด็กจากปัญหาความบกพร่องทางสายตา25.นมวัวทำใ้ห้เกิดอาการระคายเคืองในลำไส้26.เด็กกินนมผสมมีโอกาสเป็นโรคอ้วนมากกว่าเมื่อโตขึ้น27.การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทำให้แม่ลาป่วยน้อยลง เพราะเด็กที่เลี้ยงด้วย นมแม่ จะแข็งแรงและป่วยน้อยกว่าเด็กที่เลี้ยงด้วยนมผสม28.การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ช่วยให้ยับยั้งการเจริญเติบโตผิดที่ของเยื่อบุมดลูก29.การดูดนมของทารกช่วยป้องกันการตกเลือดของมารดาหลังคลอด30.การเลี้ยงทารกด้วยนมผสม ทำให้ทารกมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคที่ทำให้เสียชีวิตกระทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ (SIDS) เพิ่มขึ้น31.การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ช่วยป้องกันการติดเชื้อที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วง32.การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วย ป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ33.การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ช่วยป้องกันทารกจากการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ34.เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สะดวกกว่านมผสมเพราะไม่ต้องเตรียมขวด ไม่ต้องใช้น้ำร้อน35.การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวัคซีนที่ลูกได้รับ36.นมแม่ ไม่ต้องเสียเงินซื้อ37.นมผสม ราคาแพง38.เราต้องเสียเงินในแต่ละปีหลายหมื่นล้านกับการนำเข้านมผสม และค่ารักษาโรคเด็กทารกที่ป่วยเพราะขาดภูมิคุ้มกันจาก นมแม่39.ทารกที่กินนมแม่ไม่ต้องไปหาหมอบ่อยๆ เพราะแข็งแรงกว่าทารกที่กินนมผสม40.สารอาหารแต่ละชนิดในนมแม่มีสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับทารก41.นมแม่ มีสารเคมีที่ทำให้ลูกสงบและไม่ค่อยงอแง42.การให้ลูกดูดนม ช่วยลดความเครียดให้แม่ ทำให้แม่หลับได้ง่าย43.นมแม่ อร่อยกว่านมผสม44.ทารกที่เลี้ยงด้วยนมแม่โดยรวมแล้วมีสุขภาพที่ดีกว่า45.ทารกที่เลี้ยงด้วยนมแม่มีโอกาสต่ำที่จะเสียชีวิตก่อนอายุสามขวบ46.นมแม่อุ่นกำลังดี47.ประหยัดค่ารักษาพยาบาลลูก และไม่ต้องเสียเวลาไปหาหมอบ่อยๆ48.ไม่ต้องกังวลเรื่องเลิกขวดนม49.ไม่ต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติในการบรรจุหีบห่อเหมือนนมผสม50.นมแม่ไม่เสียง่าย51.การดูดนมจากเต้า ทำให้ลูกมีฟันสวยกว่าดูดจากขวด52.จากการศึกษาพบว่าเด็กที่กินนมแม่มีโอกาสเกิดโรคสายตาสั้นน้อยกว่า53.การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยคุมกำเนิดได้54.การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดคอเลสเตอรอลสูง55.นมแม่ไม่ต้องแช่เย็น เพราะนมแม่ไม่เสียง่ายเหมือนนมผสม56.นมวัวเหมาะสำหรับลูกวัว นมแม่เหมาะสำหรับลูกคน57.นมแม่ช่วยให้การทำงานของลำไส้พัฒนาขึ้นอย่างเหมาะสม58.นมแม่มีเอ็นดอร์ฟิน ช่วยลดความเจ็บปวดให้ลูกได้โดยธรรมชาติ59.นมแม่เป็นอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับทารกที่ป่วย60.แม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมตนเองนอนหลับได้มากกว่า (โดยเฉพาะนอนกับลูก)61.ทารกที่กินนมแม่มีความสุขมากกว่าในตอนกลางคืน เพราะไม่ต้องรอชงนม62.ลูกกินนมแม่ คุณพ่อสบายกว่าในตอนกลางคืน63.เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ใดๆ ให้ยุ่งยาก64.นมแม่ไม่เคยถูกเรียกเก็บคืนจากท้องตลาด เพราะเกิดปัญหาในการผลิต65.นมแม่ไม่ติดเชื้อแบคทีเรีย66.ไม่ต้องกังวลว่ายี่ห้อไหนจะดีกว่ากัน67.ไม่ต้องกังวลว่าน้ำที่ใช้ชงนมจะสะอาดพอหรือเปล่า68.ทารกที่กินนมแม่ติดเชื้อในลำไส้น้อยกว่า69.การดูดนมแม่ช่วยให้ช่องปากและขากรรไกรมีพัฒนาการดีกว่า70.ทารกที่กินนมแม่เกิดฟันผุน้อยกว่า71.ทารกที่กินนมแม่ ฟันเป็นระเบียบมากกว่า ไม่ต้องจัดฟันในภายหลัง72.ทารกที่กินนมแม่มีพัฒนาการทางการพูดดีกว่า73.นมแม่ช่วยลดการเกิดผื่นภูมิแพ้74.ทารกที่กินนมแม่มีผิวพรรณสดใสกว่า75.ทารกที่กินนมแม่แหวะนมน้อยกว่า76.นมแม่เหมาะสำหรับเด็กที่คลอดก่อนกำหนดมากกว่านมผสม77.นมแม่ไม่มีส่วนผสมของสารตัดแต่งพันธุกรรม78.นมแม่ไม่มีฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต79.การให้นมลูกช่วยป้องกันการขาดธาตุเหล็กของแม่80.ไม่ต้องกังวลว่าจะพบในภายหลังว่าขาดส่วนผสมใดไปบ้างเหมือนนมผสม81.แม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมตนเองช่วยประหยัดค่าผ้าอนามัย82.น้ำนมแม่ช่วยป้องกันการติดเชื้อทางตา83.เด็กกินนมแม่ตัวหอมกว่า84.เด็กกินนมแม่มีพัฒนาการทางสังคมดีกว่า85.หน้าอกของแม่ถูกออกแบบมาเพื่อการให้นมลูก86.การให้นมลูกช่วยสร้างความมั่นใจในตัวเองให้กับแม่87. การไม่ได้กินนมแม่มีความเกี่ยวข้องกับการเป็นโรคปลอกหุ้มเส้นประสาทอักเสบ (Multiple Sclerosis หรือ MS) ตอนอายุมากขึ้น88. การดูดนมช่วยให้การทำงานประสานกันระหว่างมือกับสายตาของเด็กทารกดีขึ้น89. การกินนมแม่ลดโอกาสเป็นโรคไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ (inguinal hernia)90. การกินนมแม่อาจจะทำให้ความดันโลหิตในวัยเด็กลดลง91. การเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เด็กกินนมแม่น่าอึดอัดน้อยกว่า เพราะอุจจาระของเด็กกินนมแม่กลิ่นรุนแรงน้อยกว่าเด็กกินนมผสม92. การกินนมแม่ช่วยให้ทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดน้อยมีพัฒนาการด้านความคิดและสติปัญญาดีกว่า93. การกินนมแม่ลดความเสี่ยงที่เด็กทารกจะมีอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ94. การกินนมแม่ลดโอกาสการเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ rheumatoid arthritis95. การกินนมแม่ลดโอกาสที่เด็กจะเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน Hodgkins disease96. การกินนมแม่ลดโอกาสการเป็นโรคกระดูกพรุน97. เด็กทารกที่กินนมแม่ มีโอกาสเกิดปัญหาเกี่ยวกับ การหายใจและระบบไหลเวียนโลหิต ในขณะกินนม น้อยกว่าทารกกินนมผสม98. ทารกกินนมแม่มีโอกาสเป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรังน้อยกว่า...

Read more