Health/สุขภาพ RSS

babyfun, cutebaby, สุขภาพ -

1. มีเสน่ห์  หลายคนที่ไม่ได้หล่อไม่ได้สวย แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม ก็เหมือนกับว่าโลกทั้งโลกสว่างไสวไปกับรอยยิ้มของเขา หลายคนไม่รู้ตัวหรอกว่า ตัวเองยิ้มสวยแค่ไหน ต้องลองยิ้มกับกระจกและสำรวจดูบ้าง   2. มีมิตรมากกว่าศัตรู  รอยยิ้มที่จริงใจและถูกกาลเทศะ จะสร้างมิตรมากกว่าสร้างศัตรู ว่ากันว่า รอยยิ้มคือเครื่องมือกะเทาะกำแพงน้ำแข็ง หรือความเย็นชาแปลกหน้าที่ผู้คนมีต่อกันได้เป็นอย่างดี ใครจะรู้ รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่ส่งให้กันในวันนี้ อาจนำพาเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตมาให้เราก็ได้   3. มีความสดชื่น   รอยยิ้มเป็นสัญลักษณ์ของอารมณ์ที่สดชื่น เหมือนกับความสดชื่นนั้นคือต้นไม้ และรอยยิ้มก็คือดอกไม้ อารมณ์และสภาพจิตของคนเรา ปลูกต้นอะไรไว้ก็ย่อมจะออกดอกเป็นสิ่งนั้น   4. มีกำลัง  หลายคนบอกว่า เมื่อเผชิญกับปัญหา ความทุกข์ หรือความยากลำบาก ให้ยิ้มเข้าไว้ จะทำให้มีเรี่ยวแรงกำลังที่จะฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะว่ารอยยิ้ม คือกำลังของชีวิตอย่างหนึ่ง   5. มีมุมมองที่ดี  คนที่มีอุปนิสัยยิ้มแย้ม จะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี แม้ในเวลาที่มีปัญหา ก็จะยิ้มสู้ และพลิกปัญหาหรืออุปสรรคเหล่านั้นให้กลายเป็นโอกาสขึ้นมาได้     รุ้อย่างงี้แล้ว....ลองยิ้มนิดนึงสิค่ะ  ^______^   ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://variety.teenee.com  

Read more

สุขภาพ -

5 ผลไม้ สุดชื่นใจ ในหน้าร้อน   1. แตงโม ผลไม้ที่มีน้ำประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก จึงไม่ต้องแปลกใจที่เมื่อใดที่ได้ทานแตงโมยิ่งแช่เย็น เราจะรู้สึกชดชื่นมากมาย ด้วยความที่แตงโมงมีคุณสมบัติเย็น จึงช่วยลดอาการไข้ คอแห้ง บรรเทาแผลในปาก อีกทั้งมีเบตาแคโรที กินแล้วผิวพรรณดี ไม่แก่ก่อนวัยด้วยนะจะบอกให้     2. แตงไทย ในแตงไทยจะมีคาร์โบไฮเดรด แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ และวิตามินซี (ประโยชน์เยอะแท้) เนื้อของแตงไทยมีฤทธิ์เย็น จึงช่วยดับกระหายได้เป็นอย่างดี นอกจากคุณสมบัติข้างตนแล้วยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง อาทิเช่น แก้เลือดกำเดาไทล ดอกอ่อนตากแห้งต้มดื่มช่วยให้อาเจียน แก้โรคดีซ่าน หรือบดเป็นผงพ่นแก้แผลในจมูก เมล็ดแก่ช่วยในการขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร แก้ไอ รากต้มดื่มช่วยระบายท้อง     3. มะพร้าว น้ำ มะพร้าวเป็นน้ำผลไม้ที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งมีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการครบถ้วน มีไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ภายใน 5 นาที ทั้งนี้ยังเป็นประโยชน์ในการขับสารพิษและชำระล้างร่างกายด้วย     4. ส้ม เป็นผลไม้ตระกูล Citrus ที่ให้ทั้งรสเปรี้ยวและหวาน จึงอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ มากมาย ที่เด่นที่สุดคือ ให้วิตามินซีสูง นอกจากนี้ ยังมีแคลเซียม วิตามินเอ บี โปแตสเซียม แคลเซียม ใยอาหาร ฟอสฟอรัส เหล็ก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เวลาทานส้มเราจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ขึ้นมาในทันที     5. มะม่วง จากการศึกษาวิจัยพบว่า มะม่วง เป็นผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย แหล่งของวิตามินเอ วิตามินซี ที่สำคัญมะม่วง ยังช่วยให้ภูมิคุ้มกันของเรา มีความแข็งแรง เพื่อเป็นเกราะป้องกัน เชื้อโรค ไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย ของเรานั่นเอง นอกจากนี้ ยังพบสารอาหาร ในมะม่วงอีกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ไฟเบอร์ เกลือแร่ อาทิเช่น ฟอสฟอรัส แคลเซียม เป็นต้น  ...

Read more

เเพ้อาหาร -

แท้จริงแล้วอาการหรือปฏิกิริยาทางร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อกินอาหารบางชนิดเข้าไปนั้น มีความแตกต่างระหว่างคำว่า การแพ้อาหาร (Food allergies) กับ การรับอาหารบางชนิดไม่ได้ (Food intolerance)นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี เรียบเรียงคนเรานั้นมีโอกาสเกิดอาการแพ้อาหารและการรับอาหารบางชนิดไม่ได้เป็นบางช่วงของชีวิต ซึ่งในเด็กประมาณร้อยละ 3 ที่พิสูจน์ได้ว่าแพ้อาหารจริง แต่เมื่อเป็นผู้ใหญ่อาการแพ้อาหารนั้นจะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 1 เท่านั้นแท้จริงแล้วอาการหรือปฏิกิริยาทางร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อกินอาหารบางชนิดเข้าไปนั้น มีความแตกต่างระหว่างคำว่า การแพ้อาหาร (Food allergies) กับ การรับอาหารบางชนิดไม่ได้ (Food intolerance) ทั้งนี้ การแพ้อาหาร (Food allergies) จะเกิดจากปฏิกิริยาที่ไวต่ออาหารนั้นๆ เป็นปฏิกิริยาที่ผิดปกติต่ออาหารเนื่องจากมีการกระตุ้นจากระบบภูมิต้านทานของร่างกาย ส่วน การรับอาหารบางชนิดไม่ได้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทานแต่อย่างใด แต่ทั้งสองกลุ่มนี้จะมีอาการคล้ายคลึงกันทั้งนี้การแพ้อาหารจริงๆ มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่ต้องพยายามตรวจสอบและป้องกันการเกิดปฏิกิริยาการแพ้ เพราะนอกจากทำให้เกิดภาวะเจ็บป่วยแล้ว บางคนอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้กลไกการเกิดปฏิกิริยาการแพ้อาหารปฏิกิริยาการแพ้นั้นมีผลเกี่ยวข้องกับ 2 กลไกทางระบบภูมิต้านทาน คือ การสร้างภูมิต้านทานชนิด อี (Immunoglobulin E: IgE) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งเรียกว่าแอนตี้บอดี้ที่อยู่ในกระแสเลือด และอีกกลไกหนึ่งเกี่ยวข้องกับมาสต์เซลล์ (Mast cell) ที่อยู่ในทุกเนื้อเยื่อของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่เกิดอาการแพ้ เช่น ในจมูก คอ ปอด ผิวหนัง และทางเดินอาหารความสามารถในการสร้าง IgE ต่ออาหารนั้นมักมีส่วนที่ได้รับจากกรรมพันธุ์ เช่น มีคนในครอบครัวมีอาการแพ้ไม่ว่าจะแพ้อาหาร แพ้ฝุ่น แพ้เกสรดอกไม้ หอบหืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพ่อแม่เป็นภูมิแพ้ทั้งสองฝ่าย ลูกก็จะมีโอกาสแพ้มากกว่าคนที่มีเพียงพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งที่เป็นภูมิแพ้ก่อนที่จะเกิดอาการแพ้นั้น คนที่แพ้ต้องเคยได้รับอาหารชนิดนั้นมาก่อน เมื่อมีการย่อยอาหารก็จะกระตุ้นให้มีการสร้าง IgE จำนวนมาก ซึ่งจะเข้าไปเกาะผิวของมาสต์เซลล์ เมื่อมีการรับประทานอาหารชนิดนั้นอีกครั้ง อาหารจะไปกระตุ้น IgE จำเพาะบนผิวมาสต์เซลล์นั้น ทำให้เกิดการหลั่งสารเคมี เช่น ฮีสตามีน ซึ่งจะทำให้เกิดอาการแพ้ตามแต่บริเวณของเนื้อเยื่อที่มีการหลั่งสารเคมีนั้น เช่น มีการหลั่งสารเคมีที่บริเวณหู คอ จมูก ก็จะมีอาการคันหรือบวมที่ปาก คอ หายใจลำบาก หรือกลืนอาหารลำบาก แต่ถ้าเป็นที่บริเวณทางเดินอาหาร ก็อาจมีอาการปวดท้องหรือท้องร่วงได้ส่วนของสารอาหารที่ทำให้เกิดการแพ้นั้น เป็นโปรตีนในอาหารที่มักไม่ถูกสลายด้วยความร้อนในการปรุงอาหารหรือกรดในกระเพาะอาหารหรือน้ำย่อย จึงทำให้สามารถดูดซึมผ่านเข้าสู่กระแสเลือดไปยังบริเวณเป้าหมายที่เกิดอาการแพ้ขึ้นได้ทั่วร่างกายความซับซ้อนในกระบวนการย่อยอาหารมีผลต่อระยะเวลาและตำแหน่งที่เกิดอาการ ตัวอย่างเช่น อาการจะเริ่มต้นจากมีอาการคันที่ปากก่อนเมื่อเริ่มรับประทานอาหาร พออาหารถูกย่อยในกระเพาะอาหารแล้ว มักจะเกิดอาการทางเดินอาหาร เช่น อาเจียน ท้องร่วง และปวดท้องได้...

Read more

gluten, glutenfree -

10 สัญญาณเตือนที่ต้องรู้ว่า "แพ้กลูเตน"มีโรคมากกว่า 50 โรคที่พบว่าสาเหตุเกี่ยวข้องกับกลูเตน และมีคนที่เป็นทั้งโรคแพ้กลูเตนและโรคเซลีแอคแต่กลับไม่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคดังกล่าว... อาจจะงงว่ากลูเตนคืออะไร โรคแพ้กลูเตนและโรคเซลิแอคเป็นอย่างไร เรามาทำความเข้าใจกันค่ะกลูเตน (Gluten) เป็นไกลโคโปรตีนที่พบได้ในข้าวสาลี  ข้าวบาร์เลย์ และข้าวโพด ซึ่งในปัจจุบันเราใช้กลูเตนในการผลิตขนมปัง ช่วยให้ขนมปังเหนียวนุ่ม น่ารับประทาน รวมทั้งในข้าวโอ๊ต เค้ก พาย ซีเรียล และใช้แทนเนื้อสัตว์ในอาหารเจอีกด้วย การแพ้กลูเตน (Gluten Intolerance) โรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบการย่อยทางพันธุกรรมไม่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน เกิดขึ้นเมื่อกลูเตนซึ่งไม่สามารถสามารถย่อยผ่านเข้าสู่ลำไส้เล็ก ทำให้เกิดอาการเช่นเดียวกับการแพ้นม ผู้แพ้กลูเตนอาจมีอาการท้องอืด มีก๊าซในกระเพาะ และท้องเสีย แต่ไม่มีการอักเสบของลำไส้อย่างรุนแรงโรคเซลิแอค (Celiac Disease) เกิดจากการอักเสบที่ลำไส้เล็ก ทำให้ไม่สามารถดูดซึมไขมัน วิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารอื่นๆ ได้อย่างเพียงพอ ผลจากการขาดสารอาหารที่ลำไส้เล็ก ทำให้ลำไส้เล็กไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลให้เกินโรคอื่นๆตามมาหากเราพยายามจะรักษาสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารที่มีประโยชน์แต่ก็ยังพบว่ายังเจ็บนั่น ปวดนี่อย่างไม่มีสาเหตุ ลองมาเช็คดูค่ะว่าเราแพ้กลูเตนหรือไม่กับ 10 สัญญาณเตือนที่ต้องรู้ว่าคุณแพ้กลูเตน1. มีปัญหาทางระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเสียและท้องผูก โดยเฉพาะเด็กๆจะสังเกตได้ง่ายโดยหลังจากทานอาหารที่มีกลูเตนเป็นส่วนประกอบเข้าไปจะมีอาการเริ่มท้องผูก2. เป็นโรคขนคุด (Keratosis Pilaris) มีลักษณะคล้ายหนังไก่จะพบอาการเหล่านี้ได้ตามท้องแขน เป็นผลมาจากการขาดกรดไขมันและวิตามิน A และส่งผลให้การดูดซึมไขมันแย่ลง เนื่องจากกลูเตนทำให้ลำใส้เสียหาย3. อ่อนเพลีย สมองตื้อ หรือรู้สึกเหนื่อยหลังจากทานอาหารที่มีกลูเตนเข้าไป4. ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคที่เกิดจากการแพ้ภูมิแพ้ตัวเอง เช่น ต่อมไทรอยด์เรื้อรังเรื้อรัง  โรคไขข้ออักเสบ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง หรือโรคยูซี โรคลูปัส โรคสะเก็ดเงิน โรคหนังแข็ง หรือ โรคปลอกประสาทอักเสบ (MS)5. มีอาการทางระบบประสาท เช่น เวียนศรีษะ หรือ เสียการทรงตัว6. ฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น อาการก่อนมีประจำเดือน เช่น อาการปวดศีรษะ อารมณ์หงุดหงิด เจ็บคัดตึงเต้านม หรือเกิดจากฮอร์โมน เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ  ขาดประจำเดือนนานๆ น้ำหนักมาก มีขนดกกว่าปกติที่ใบหน้า ร่องอก และท้องน้อย หรือภาวะมีบุตรยากที่ไม่ทราบสาเหตุ7. โรคไมเกรนหรือโรคปวดหัวข้างเดียว8. หากหมอบอกว่าคุณเป็นโรค Chronic fibromyalgia...

Read more

post-pregnancy, สุขภาพ -

นำTipในการออกกำลังกายมาฝากกันค่ะ   ออกกำลังกายลดสัดส่วน  การ เริ่มออกกำลังกายในระยะแรก ควรเริ่มจากน้อยๆ ก่อน พอทำไปอยู่ตัวสักพัก ค่อยๆ เพิ่มปริมาณไปค่ะ เพื่อให้กล้ามเนื้อค่อยๆ คุ้นกับการออกแรงทีละนิดจนชิน ถ้าออกกำลังกายเป็นประจำเช่นสัปดาห์ละ 4 ครั้ง ควรแบ่งเป็น 2 วัน หยุด 1 วัน เพื่อเป็นการพักให้กล้ามเนื้อของเราได้ฟื้นคืนสภาพ ไม่อ่อนล้าโรยแรงจนเกินไป           ลดหน้าท้อง         - ท่าที่ 1 นอนราบบนพื้น เข่างอและเท้าวางราบกับพื้น มือประสานตรงท้ายทอย ยกตัวขึ้นมาจนหลังแตะพื้นเล็กน้อย วางศอกกลับไปตามเดิม ใช้สองมือโยกศีรษะสองสามครั้ง คลายความตึงของคอ อย่าดึงตัวขึ้นมาด้วยแขนทั้งสองข้างค่ะ เพราะจะโหมใช้แรงที่หลังมากไป        - ท่าที่ 2 ปล่อยลำตัวลงราบกับพื้นตามเดิม หายใจออกเวลาขึ้น หายใจเข้าเวลาลง ทำซ้ำ 15-25 ครั้ง ท่าที่ 2 นอนบนพื้น เข่างอ 90 องศา ประสานมือทั้งสองหลังศีรษะ ศอกอยู่บนพื้น บิดเอว ดึงศอกขวาไปจรดเข่าซ้าย พลางยืดขาขวา โดยที่ศอกซ้ายยังอยู่บนพื้นทำ 15-25 ครั้ง เปลี่ยนทำอีกข้างแบบเดียวกัน           ลดเอว       - ท่าที่ 1 ยืนตรงแยกขาเล็กน้อย มือขวาวางบนสะโพก แขนซ้ายอยู่ข้างลำตัว เอียงตัวไปข้างซ้าย ให้แขนซ้ายลงไปใกล้พื้นที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่โน้มตัวไปทางหน้าหรือหลังมากไป ทำซ้ำ 10 ครั้ง แล้วเปลี่ยนข้าง ทำซ้ำอีก 10 ครั้ง       - ท่าที่ 2 วางมือขวาตรงสะโพก ยืดแขนซ้ายออกไปข้างๆ บิดตัวไปทางซ้าย เหวี่ยงแขนซ้ายไปข้างหลัง กลับมาในท่าเดิม ทำซ้ำ 10 ครั้ง เปลี่ยนข้าง ทำซ้ำอีก 10 ครั้ง ฝากการลดสัดส่วนหน้าท้องและลดเอวเล่นไปพลางๆก่อนค่ะ    จาก: นิตยสาร Life & Family   ท่ากายบริหารเฉพาะบริหารหน้าท้อง    ท่าที่ 1...

Read more