News RSS
โรคร้ายที่มาจากยุง
ปกติแล้วยุงก็เยอะในทุกๆ ฤดู แต่ว่าหากมีฝนตกบ่อยๆ เข้าละก็ ยุงจะออกมาเยอะกว่าปกติมากๆ ทำให้ลูกน้อยของเราไม่ปลอดภัย ใครๆ ก็ไม่อยากให้ลูกโดนรบกวน และโดนทำร้ายจากเจ้ายุงเป็นแน่แท้โรคติดเชื้อที่เกิดจากยุง1. ไข้เลือดออก (Dengue Hemorrhagic Fever) ไข้เลือดออกเกิดจากยุงลายเป็นพาหะ ด้วยเชื้อไวรัสเดงกี อาการจะทำให้ลูกน้อยมีไข้สูง เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตัว อาการมีได้ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง อาจมีอาการช็อคจนเสียชีวิตได้ การรักษาที่ทำได้คือประคับประคองตามอาการ จนพ้นระยะวิกฤต2. ชิคุนกุนยา หรือ ไข้ปวดข้อ (Chikungunya) โรคนี้มียุงลายบ้านและยุงลายสวนเป็นพาหะนำโรค เกิดจากเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา มีอาการคล้ายโรคไข้เลือดออก แต่จะมีไข้สูบเฉียบพลัน ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อต่ออย่างรุนแรง โรคนี้ไม่มีวัคซีนหรือยาเฉพาะ ต้องรักษาตามอาการเท่านั้น3. ไข้มาลาเรีย (Malaria) โรคนี้มียุงก้นปล่องเป็นพาหะ เกิดจากเชื้อโปรโตซัวพลาสโมเดียม มีอาการคล้ายหวัด มีไข้หนาวสั่น ที่อาจจะพบในบางรายเท่านั้น คุณหมอนั้นมักจะสงสัยหากผู้ป่วยมีการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค ซึ่งโรคนี้สามารถหายขาดได้4. ไข้สมองอักเสบเจอี (Japanese Encephalitis: JE) โรคนี้มียุงรำคาญเป็นพาหะ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเจอีที่สมอง ผู้ป่วยนั้นสามารถมีอาการ หรือไม่มีอาการก็ได้ พบผู้ป่วยมีอาหารน้อยมากๆ 1 ใน 300 รายเท่านั้น หากได้รับเชื้อแล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม จะทำให้เกิดความพิการทางระบบประสาท หรือถึงแก่ชีวิตได้5. ไข้ซิกา (Zika Fever) โรคนี้มียุงลายเป็นพาหะนำโรค เกิดจากเชื้อไวรัสซิกา อาการส่วนใหญ่จะมีไข้ ปวดข้อ ตาแดง มีผื่น อาการมักจะไม่รุนแรง แต่ถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ติดเชื้อ อาจทำให้ลูกน้อยในครรภ์พิการแต่กำเนิดได้ จึงต้องควรระวังเป็นอย่างมาก เชื้อที่มาจากยุงลายนั้น นอกจากจะส่งผลโดยตรงกับคนที่ติดเชิ้อแล้ว ยังส่งผลต่อคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ทำให้ลูกน้อยในครรภ์พิการตั้งแต่กำเนิดได้อีกด้วย...
พัฒนาการเด็กแรกเกิด - 1ปี ที่พ่อแม่ต้องเรียนรู้
เมื่อลูกน้อยออกมาลืมตาดูโลก สิ่งที่พ่อแม่อย่างเราๆ อยากรู้คงไม่พ้น แต่ละเดือนลูกมีพัฒนาการอย่างไร ลูกเราพัฒนาการช้ากว่าลูกบ้านอื่นไหม แล้วควรดูแลส่งเสริมพัฒนาการกันอย่างไร วันนี้เรานำข้อมูลเกี่ยวกับลูกน้อยช่วงแรกเกิดจนถึง 1 ปี มาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ พัฒนาการเด็กวัย 1 สัปดาห์ด้านร่างกาย และการเรียนรู้ ลูกจะมีน้ำหนักประมาณ 2.7 - 3.3 กก. ส่วนสูงประมาณ 46 - 50.5 ซม ไขมันบนผิวเริ่มหลุด ลูกจะตอบสนองต่อสิ่งเร้าอัตโนมัติ และสามารถขยับแขน ขยับขาได้ การดูแล ควรให้ลูกกินแต่นมแม่เท่านั้น เพราะในนมแม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อลูกครบถ้วน ลูกควรได้รับวัคซีน BCG และ ไวรัสตับอักเสบ บี (ครั้งที่ 1) ควรปรับอุณหภูมิบ้านให้เหมาะสมกับทารก ถ้าอากาศเย็นให้ห่อตัว ถ้าอากาศร้อนให้ใส่เสื้อผ้าบางๆ ของใช้จำเป็น ผ้าห่อตัว ผ้าอ้อม สำลีเช็ดก้น ถุงเท้า ถุงมือของเด็กอ่อน เป็นต้น พัฒนาการเด็กวัย 1 เดือนด้านร่างกาย และการเรียนรู้ ลูกจะมีน้ำหนักประมาณ 3 - 5กก. ส่วนสูงประมาณ 49 - 57 ซม. ลูกจะฉี่วันละ 10 - 15 ครั้ง และขับถ่ายวันละ 3 - 4 ครั้ง สามารถพลิกตัวให้เข้ากับการอุ้มของพ่อแม่ การดูแล ให้ลูกกินนมแม่วันละ 10 – 12 ครั้ง/วัน ทุก 2 -3 ชม. ลูกควรได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบ บี (ครั้งที่ 2) ไม่ควรพาออกนอกบ้านไปตากอากาศ เพราะยังไม่มีภูมิคุ้มกันเหมือนผู้ใหญ่ ของใช้จำเป็น กรรไกรตัดเล็บ เพราะเด็กแรกเกิดเล็บยาวเร็วมาก พัฒนาการเด็กวัย 2 เดือนด้านร่างกาย และการเรียนรู้ ลูกจะมีน้ำหนักประมาณ 4 - 6 กก. ส่วนสูงประมาณ 51 - 60 ซม. ลูกจะฉี่วันละ...
วิธีทำให้ลูกสงบ ไม่ดื้อ ไม่ซน ควรทำอย่างไร
ลูกอยู่ไม่นิ่ง ชอบปีนป่ายทำอย่างไรดี วิธีทำให้ลูกสงบนิ่ง ไม่ดื้อซน ลูกอยู่ไม่นิ่ง เดี๋ยวปีนโซฟาบ้าง ปีนเก้าอี้บ้าง เผลอแป๊บเดียวก็ไปปีนตู้อีกล่ะ ลูกซนแบบนี้ปกติไหม พฤติกรรมที่เด็กซุกซนชอบปีนป่ายมักจะเกิดขึ้นกับเด็กวัยหัดเดิน เพราะเป็นช่วงเวลาที่เด็กกำลังตื่นเต้น และเป็นพัฒนาการขั้นต้นของเด็กนั่นเองค่ะ ทำไมเด็กวัยหัดเดินถึงชอบปีนป่าย สาเหตุหลักๆ เป็นเพราะว่าเด็กๆ เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มที่จะควบคุมร่างกายให้เคลื่อนไหวได้ตามที่ต้องการได้มากขึ้น เริ่มรู้จักการขว้างลูกบอล วิ่งเล่นตามสวน หรือแม้แต่กระทั่งปีนป่ายเฟอร์นิเจอร์เล่นภายในบ้าน ซึ่งสาเหตุที่ลูกชอบปีนป่ายนั่นก็มาจากความคิดของเด็กที่ว่าอยากจะเลียนแบบพ่อแม่ อยากจะลุกนั่งบนโซฟาบ้าง อยากจะลองสำรวจสิ่งของรอบๆ ตัว เพราะพวกเขารู้สึกว่ามีพลังมีแรงที่จะควบคุมร่างกายของตัวเองได้แล้ว โดยที่ไม่รู้ว่าการปีนป่ายนั้นอาจทำให้เกิดอันตรายได้ อีกทั้งยังคิดว่า การปีนไปนู่นมานี่เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น สนุกสนาน สนองความอยากรู้อยากเห็นได้ โดยการใช้มัดกล้ามเนื้อและความสามารถทั้งหมดที่มี และยิ่งถ้าลูกน้อยมีพี่หรือเด็กที่โตกว่าอยู่ด้วย เขาก็จะยิ่งอยากทำให้เหมือนกับเด็กโตกว่า จึงพยายามเลียนแบบให้เหมือนพี่ๆ ให้ได้มากที่สุดค่ะ ควรห้ามให้ลูกน้อยปีนป่ายไหม? ถึงพ่อแม่จะห้ามไม่ให้ลูกน้อยปีนป่ายมากเท่าไหร่ มันก็ไม่ค่อยไม่ผลมากนัด เพราะเด็กวัยนี้มีความซุกซนแถมเด็กในวัยนี้จำเป็นต้องผ่านช่วงเวลาปีนป่ายไปก่อน เพื่อเติบโตไปอีกขั้นของพัฒนาการทางด้านร่างกายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแข็งแรงของร่างกาย ความยืดหยุ่น และสมดุลที่เด็กควรจะเรียนรู้ แต่พ่อแม่อาจต้องคอยสอดส่องดูแลอย่าให้ลูกคลาดสายตา เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เฟอร์นิเจอร์บางชนิดถ้าพ่อแม่เห็นว่าหากลูกปีนป่ายแล้วเกิดอันตรายก็ควรเปลี่ยนออกไป อย่างเช่นตู้ลิ้นชัก เพราะเคยมีกรณีที่เด็กเปิดลิ้นชักแล้วตู้ลิ้นชักล้มทับเด็ก ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและร่างกายของเด็กเป็นอย่างมากค่ะ วิธีทำให้ลูกสงบ ไม่ดื้อ ไม่ซน ควรทำอย่างไร ก่อนอื่น พ่อแม่ต้องเข้าใจก่อนว่าเด็กวัยนี้มักจะซุกซนเป็นปกติ ไม่ยอมหยุดนิ่งเท่าไหร่ โดยเฉพาะการได้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนที่สูงๆ นั้นก็เป็นหนึ่งในความปรารถนาของเด็กวัยนี้เช่นกัน ดังนั้น วิธีที่จะทำให้ลูกดื้อน้อยลงเวลาอยู่ที่บ้าน คือ การให้ลูกได้เล่นอย่างเต็มที่อาจจะเป็นสนามเด็กเล่นที่บ้าน หรือโซนเครื่องเล่นตามห้างสรรพสินค้า หรือที่ต่างๆ ค่ะ พ่อแม่อาจจะให้ลูกเล่นประมาณ 1-2 ชั่วโมง ให้ลูกได้เล่นจนเพลีย รู้สึกเหนื่อย หรือรู้สึกง่วงนอน แต่ก็อาจจะช่วยได้เพียงชั่วครู่ เพราะหากลูกน้อยได้พักงีบพลังก็จะกลับมาอีกครั้ง หรือทำโดยวิธีนี้ หาเก้าอี้หรือบันไดสำหรับเด็ก ให้น้องได้ลองปีนเล่นเพื่อหยิบหนังสือหรือของเล่นบนชั้นเอง โดยที่ชั้นวางของเล่นหรือหนังสือต้องมีความแข็งแรงพอด้วยค่ะ อย่านำเก้าอี้ไว้ใกล้กับหน้าต่าง เพราะลูกน้อยอาจจะปีนขึ้นไปและพลาดตกหน้าต่างไปได้ค่ะ หาของเล่นแถบแม่เหล็กแบบติดกับเฟอร์นิเจอร์ได้ ให้ลูกน้อยได้ลองติด และสำรวจดูค่ะ ทำคอกหรือหาเครื่องเล่นสำหรับเด็กให้ลูกได้ปีนป่ายภายในบ้านเพื่อความปลอดภัย ความปลอดภัยของเด็กเป็นเรื่องที่สำคัญ และพัฒนาการของเด็กก็เป็นเรื่องที่สำคัญด้วยเช่นกัน ซึ่งพ่อแม่อาจไม่สามารถห้ามลูกน้อยที่จะเล่นหรือปีนป่ายได้ แต่พ่อแม่สามารถเลือกที่จะป้องกันอุบัติเหตุของลูกน้อยได้ค่ะ สำหรับคุณแม่คุณพ่อท่านใดสนใจของใช้สำหรับแม่และเด็ก สามารถเข้าไปเยี่ยมชมสินค้าต่างๆ ได้เลยค่ะ : ของใช้แม่และเด็ก ขอบคุณที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ คอลั่มน์ แม่และเด็ก
รวมเหล่าดาราพร้อมใจกันคลอดลูก พาลูกๆ มาสวัสดีปีเสือ 2022!!
รวมเหล่าดาราพร้อมใจกันคลอดลูก พาลูกๆ มาสวัสดีปีเสือ 2022!! มาสวัสดีปีเสือกันหลายบ้านเลยทีเดียวกับเด็กๆ ที่คลอดใหม่ในปีนี้ กับลูกๆ ของเหล่า ดาราคนดังทั้งหลาย ที่หลังจากผ่านช่วงเวลารอคอยมายาวนานกว่า 9 เดือน ทุกครอบครัวก็ได้พบหน้าคนแปลกหน้าที่พร้อมจะตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ไปดูกันว่า มีบ้านไหนบ้างนะ ที่ให้กำเนิดลูกน้อยในปีนี้ ปุ้มปุ้ย พรรณทิภา ภรรยา กวินท์ คุณแม่สุดแซ่บ "ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา" ก็เป็นอีกหนึ่งคุณแม่ป้ายแดงเช่นกัน เพราะหลังจากที่คงความแซ่บระหว่างคลอดมาเป็นเวลา 9 เดือน ก็ได้เวลาให้ลูกน้อยออกมาดูโลกแล้ว นัดร้องชื่อดัง กวินท์ ดูวาล ได้พาภรรยาสาวท้องโต เข้าโรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อทำการคลอดลูกคนแรกของทั้งคู่ในวันที่ 16 มกราคม 2022 ที่ผ่านมา ด้วยความตื่นเต้นของทั้งคู่ ซึ่งข้อมูลและรายละเอียดของลูกคนแรกนั้น ถูกเก็บไว้เป็นสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งคุณแม่ได้ทำการโพสต์รูปแบบรักษาความเป็นส่วนตัวให้น้อง แต่ถึงแม้จะเห็นน้องไม่เต็มที่ แต่ความน่ารักก็กุมหัวใจเหล่าแฟนๆ ไปไม่น้อยเลย เตย กัญญกร อดีตรองมิสทีนไทยแลนด์ 2004 หลังจากร้องไห้หลายต่อหลายครั้งเพราะเธอและสามีอยากมีลูกด้วยกันมาก แต่เธอนั้นไม่สามารถมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติได้ ทำให้เธอนั้นต้องพยายามอย่างหนักเพื่อดูแลตัวเอง หลังจากความพยายามดูแลตัวเอง และปรึกษาแพทย์ "เตย กัญญกร" ดาราสาว ก็ได้ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก ในวันที่ 30 มกราคม 2022 โดยตั้งชื่อว่า "ซินเซีย" มีความหมายว่า "จริงใจ" ทั้งคู่ต่างปลื้มปิติที่ในที่สุดความพยายามของทั้งคู่ก็สำเร็จ และต่อไปนี้ จะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบแล้ว ขอให้เป็นเด็กที่แข็งแรง...
อัพเดทค่าเทอมโรงเรียนอนุบาลอินเตอร์ 6 แห่ง ปี 2022 กันดีกว่า!!
อัพเดทค่าเทอมโรงเรียนอนุบาลอินเตอร์ 6 แห่ง ปี 2022 กันดีกว่า!! ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในยุคนี้ ค่าใช้จ่ายในครอบครัวที่สูงที่สุด ในครอบครัวที่มีลูกนั้น มักจะเป็นค่าเล่าเรียนของเหล่าลูกๆ นั่นเอง และยิ่งเกี่ยวกับการศึกษาแล้วละก็ เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนด้านการศึกษาของลูกๆ ที่ต้องมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การศึกษาในระบบใหม่ๆ ยิ่งมีบทบาทมากยิ่งขึ้น โรงเรียนที่มีหลากหลายในปัจจุบันนั้นก็มีทั้งโรงเรียนที่มีคุณภาพ และระบบการศึกษารูปแบบใหม่ๆ ให้ผู้ปกครองนั้นเลือกให้แก่ลูกๆ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่ ผู้ปกครองนั้นก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกอย่างแน่นอน และโรงเรียนในปัจจุบันก็มีมากมาย ทั้งที่ก่อตั้งมานาน มีชื่อเสียงมานานแล้ว หรือเพิ่งก่อตั้ง เป็นโรงเรียนรูปแบบใหม่ ที่นำการศึกษารูปแบบใหม่ๆ เข้ามาในประเทศ นั่นก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ผู้ปกครองนั้นต้องทำการศึกษาหาข้อมูลต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ลูกๆ ของพวกเขา พ่อแม่ในทุกวันนี้เมื่อส่งลูกๆ เข้าโรงเรียนแล้ว การดูแลเด็กๆ นั้นจะตกเป็นของครูผู้ดูแลเด็ก ดังนั้นพ่อแม่หลากหลายบ้าน ต้องทำการศึกษาข้อมูลของโรงเรียนหลายๆ ที่เพื่อประกอบการตัดสินใจ เลือกโรงเรียนให้แก่ลูกๆ อันเป็นที่รัก นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องศึกษาข้อมูลของโรงเรียนในปัจจุบัน และอัพเดทค่าเรียนของปี 2022 เพราะพ่อแม่ยุคใหม่ๆ นั้นจะมีความคิดที่อยากให้ลูกนั้นได้เรียนในโรงเรียนที่ดี มีคุณภาพ ทั้งในเรื่องด้านการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียน รวมถึงด้านบุคลากรที่ใกล้ชิดกับเด็กๆ อีกด้วย ค่าเทอมโรงเรียนอนุบาลนานาชาติ ในประเทศไทย โรงเรียนกีรพัฒน์ KEERAPAT INTERNATIONAL SCHOOL 250,000 บาท ต่อปี กีรพัฒน์ KEERAPAT INTERNATIONAL SCHOOL ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 หลักสูตรของที่นี่ จะทำเป็นหลักสูตรที่เป็นมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นโรงเรียนที่ก่อตั้งได้ไม่นาน มีอายุน้อย แต่ได้รับรางวัล Western Association of...