
เลือกได้เลย! 5 ตัวเลือก ประกันสุขภาพสำหรับเด็ก ปี 2022 เพื่อลูกน้อยที่คุณรัก
เลือกได้เลย! 5 ตัวเลือก ประกันสุขภาพสำหรับเด็ก ปี 2022 เพื่อลูกน้อยที่คุณรัก

หลายคนนั้นคิดว่าการเลือกประกันสุขภาพนั้นไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ เพราะทุกคนนั้นต่างมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่า ลูกของคุณนั้นเขายังเป็นเด็กเล็กที่ยังมีภูมิต้านทานต่อโรคต่างๆ น้อยมากๆ ถ้าเทียบกับผู้ใหญ่ แถมเด็กๆ นั้นมักจะประสบอุบัติเหตุได้มากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากพวกเขายังไม่มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตมากพอ ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุนั้นจึงจำเป็นสำหรับพวกเขา
และยิ่งไปกว่านั้นสำหรับในยุคที่โควิดจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราอยู่แล้ว การที่ลูกของเราต้องออกไปโรงเรียน หรือออกไปเล่นข้างนอก สถานที่ต่างๆ ที่จำเป็นต้องออกไปนั้น เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าปลอดภัยสำหรับพวกเขาจริงๆ การทำประกันสำหรับเด็กจึงต้องพิจรณาดีๆ สำหรับพ่อแม่แล้วละค่ะ
สำหรับใครที่ยังเลือกไม่ได้ หรือไม่ทราบว่าจะเลือกประกันแบบไหนให้ลูกดี บอกเลยว่า เรามีข้อมูลมาแนะนำ ให้คุณแม่คุณพ่อนั้นเลือกกันได้เลย ตามสะดวก แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า การทำประกันสุขภาพสำหรับเด็กนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้าม ไปเริ่มทำความรู้จักกับประกันของแต่ละที่กันดีกว่า
อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต
ประกันของทาง อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เป็นประกันสุขภาพสำหรับเด็กแบบเหมาจ่าย ซึ่งเมื่อลูกของคุณต้องได้รับการรักษา จะได้รับการรักษาแบบเต็มที่ และเป็นการรักษาที่ดีที่สุด และหากต้องมีการเข้าพักรักษาตัวภายในโรงพยาบาล ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการดูแล และบริหาร ที่สำคัญเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะเป็นแบบเหมาจ่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ประกันสุขภาพสำหรับเด็กของทาง อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จะเริ่มทำได้เมื่อเด็กนั้นมีอายุตั้งแต่ 1 เดือน 1 วันถึง 10 ปี ขึ้นไป และสามารถต่ออายุของประกันไปได้เรื่อยๆ จนกว่าอายุจะถึง 84 ปี กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่า เริ่มต้นที่ดี และคุ้มต่อการลงทุนระยะยาว
การซื้อประกันของที่นี่จะต้องซื้อควบคู่กับตัวสัญญาหลักตามกฎเกณฑ์ที่บริษัทได้มีการกำหนดเอาไว้ ซึ่งตัวหลักนั้นก็ต้องไปดูกันอีกทีว่า จะเป็นสัญญาแบบไหนนั่นเอง งเงินสำหรับการคุ้มครองนั้นให้สูงถึง 1.2 ล้านบาทต่อปี และยังมีการปรับเพิ่มเป็น 2 ล้านบาทต่อปี เมื่อเด็กมีอายุ 11 ปี ขึ้่นไปอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีค่าอื่นๆ ที่จะได้รับไม่ว่าจะเป็น
- ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ จ่ายให้ 2,000 บาท ต่อวัน
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล ต่างๆ จ่ายให้สูงสุด 3,000 บาท ต่อวัน
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล สำหรับห้องผู้ป่วยหนัก ICU จ่ายให้สูงสุด 6,000 บาท ต่อวัน
- ค่ายากลับบ้าน (ที่มีการจ่ายยาไม่เกิน 7 วัน ต่อการเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลในแต่ละครั้ง) จ่ายให้ 1,500 บาท
ประกันสินมั่นคง
ประกันสินมั่นคง มาในชื่อ ประกันสุขภาพเด็ก Super Kids ประกันสุขภาพนี้จะสามารถเริ่มทำได้เมื่อเด็กนั้นมีอายุ 1-14 ปี เมื่อทำประกันนี้แล้วจะสามารถทำการเบิกจ่าย OPD/IPD ที่เป็นโรคเฉพาะ โรคยอดนิยมของเด็ก นั่นก็คือ ไข้เลือดออก, ไข้หวัดใหญ่, มือเท้าปาก, ตาแดง ยังไม่พอ ยังมาพร้อมกับเรื่องของช่องปากอีกด้วย นั่นก็คือ จะมีเบื้อประกันสำหรับ ทันตกรรม 2,000 บาทต่อปี เบี้ยประกันภัยที่ต้องจ่ายนั้นเพียงแค่ 4,300 บาทต่อปี เท่านั้นเอง
ส่วนค่าอื่นๆ ก็มีดังนี้
- การรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยในในกรณีที่เด็กนั้นต้องทำการเข้ารักษาตัวนอนโรงพยาบาล (IPD) และมีอาการป่วยเฉพาะโรค ความคุ้มครองผู้ป่วยในนั้นมีการจ่ายสูงสุด 100,000 บาท ต่อปี
- สำหรับความคุ้มครองผู้ป่วยในที่เข้ารักษาตัวภายในโรงพยาบาลสูงสุดต่อการเข้าพักรักษาตัวในครั้งใดครั้งหนึ่ง จ่าย 50,000 บาท
- สำหรับการรักษาพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ทำการรักษาตัวภายในโรงพยาบาล (OPD) สำหรับผู้ป่วยเฉพาะโรค คุ้มครองผู้ป่วยนอก จ่าย 10,000 ต่อปี
- สำหรับความคุ้มครองผู้ป่วยนอกทีไมได้มีการนอนรักษาตัวภายในโรงพยาบาลต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง 1,000
- การรักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุดต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง 25,000
เอฟดับบลิวดี แฟมิลี่ แคร์
ประกันของทาง เอฟดับบลิวดี แฟมิลี่ แคร์ นั้นจะเป็นประกันแบบคุ้มครองสุขภาพ เป็นประกันสุขภาพที่สามารถทำได้ทั้งครอบครัว ซึ่งจะมีส่วนลดในค่าเบี้ยประกันเมื่อคนในครอบครัวนั้น ทำประกันทั้งหมด 3 คนขึ้นไป เหมาะกับครอบครัวที่ยังไม่มีประกันสุขภาพ แล้วอยากได้ประกันสักตัว ก็อาจจะมองเป็นตัวนี้ก็ได้ ทำทีเดียวพร้อมกัน 3 คนขึ้นไป ก็ได้รับส่วนลดจากทางนี้อีกที เรียกได้ว่า มีส่วนลดก็ดูดีขึ้นไปอีก และประกันสุขภาพนี้ก็สามารถครอบคลุมเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลทั้งกรณีเป็นผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน และประกันชีวิตของคนในครอบครัวอีกด้วย
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็ได้แก่
- ถ้าได้มีการเข้ารักษาพยาบาลและมีการนอนโรงพยาบาลจะทำการเบิกค่ารักษาได้สูงสุด 25,000 บาทต่อครั้งที่เข้ารับการรักษา และสามารถเบิกได้สูงสุด 50,000 บาท ต่อปี
- ในส่วนของการเบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีทีเป็นผู้ป่วยนอกสามารถเบิกได้ 1,000 บาทต่อครั้งที่เข้ารับการรักษา เบิกได้สูงสุด 30 ครั้งต่อปีเลยทีเดียว
- การเข้ารับการรักษาได้ทันทีโดยไม่ต้องสำรองจ่าย ด้วยบัตรของทางบรีษัท ชื่อว่า เอฟดับบลิวดี แคร์การ์ด ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งในโรงพยาบาล และคลินิกในเครือข่ายของบริษัทกว่า 380 แห่งทั่วประเทศ
- เมื่อซื้อประกันกับทางบริษัทครบ 3 คนขึ้นไป ภายในครอบครัว สามารถรับส่วนลดเบี้ยประกันภัย 25% ได้ทันที
เอ็ทน่า อินเตอร์เนชั่นแนล
เอ็ทน่า อินเตอร์เนชั่นแนล สำหรับการจ่ายเบี้ยประกันของที่นี่ เขาเน้นว่าจ่ายน้อย จ่ายเบา จ่ายด้วยเงินไม่แพงแต่มีการให้บริการและการคุ้มครองที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้ารับการรักษาด้วยอาการเจ็บป่วย หรือจะเป็นการรักษาตัวจากอุบัติเหตุก็สามารถคุ้มครองได้ทั้งนั้น ซึ่งอายุของการทำประกันกับทางบริษัทนี้อายุเริ่มต้นเพียงแค่ 15 วัน ก็สามารถทำได้แล้ว สามารถทำประกันได้สูงสุดถึงอายุ 65 ปี กันเลยทีเดียว
ค่ารักษาอื่นๆ ที่จะได้ก็คือ
- ค่าห้องพักภายในโรงพยาบาล ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล จ่ายให้สูงสุด 4,000 บาทต่อวัน (หากมีการเข้าห้อง ICU จะมีการชดเชยเพิ่มเป็น 2 เท่า)
- การรักษาด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ หรือการฟอกไต (สูงสุดต่อการบาดเจ็บ หรือมีการเจ็บป่วยแต่ละครั้ง) จ่ายให้สูงสุด 10,000 บาท
- ความคุ้มครอง ในกรณีที่มีการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะทางด้านสายตา ทางด้านการรับฟังเสียง การพูดออกเสียง และมีอาการทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง (มีการคุ้มครองการขับขี่ หรือโดยสารจักรยานยนต์ 50% ของทุนประกันภัย) 100,000 บาท
- ค่ารถพยาบาลที่บริหารรับส่งผู้ป่วย (จ่ายสูงสุดต่อเที่ยว) 1,000 บาท
กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต
ทาง กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดทำรูปแบบการประกันสุขภาพสำเร็จรูป iKid มาในรูปแบบของประกันสุขภาพสำเร็จรูป สำหรับเด็กที่เกิดมาต้องการความพร้อม ต้องการการคุ้มครอง การดูแลในเรื่องสุขภาพ เพื่อการเรียนรู้ที่ไม่มีขีดจำกัดของเขา และคุณแม่คุณพ่อก็ไม่ต้องมีเรื่องให้กังวล เนื่องจากเป็นการดูแลสุขภาพแบบสำเร็จรูป
การให้บริการในการทำประกันกับเด็กแรกเกิดนั้นจะเริ่มทำได้ในเมื่อเด็กนั้นมีอายุครบ 1 เดือน - 15 ปี ก็สามารถทำได้แล้ว และประกันนี้สามารถสมัครแล้วต่ออายุสัญญาไปได้จนอายุถึง 21 ปีเลยทีเดียว
ในส่วนของการคุ้มครองอื่นๆ นั้นได้แก่
- ความคุ้มครองการสูญเสียชีวิต (ในทุกๆ กรณี) ตามจำนวนเงินที่ผู้ขอเอาประกันภัยเลือก (ซึ่งจะมีขั้นต่ำ 1,000,000 บาท)
- ให้ความคุ้มครองในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน ในรูปแบบการเหมาจ่ายสูงสุดรวมทุกความคุ้มครองไม่เกิน 6,000,000 ต่อปี
- และความคุ้มครองสำหรับผู้ป่วยนอก(OPD) จ่ายให้ 35,000 บาท ต่อปี (และไม่เกินผลประโยชน์รวมสูงสุดต่อปี)
- สามารถรับเงินจ่ายคืนประจำปี ตั้งแต่สิ้นปีที่ 2 ไปจนครบสัญญา และครบกำหนดสัญญา (เมื่ออายุครบ 90 ปี) ก็สามารถรับ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันครบกำหนดสัญญาได้เลย
สำหรับพ่อแม่ท่านใดที่กำลังคิดอยู่ว่าจะทำประกันให้ลูกน้อยของคุณหรือไม่ ก็สามารถดูข้อมูลที่ทางเราให้ไป ไปประกอบกับการตัดสินใจนะคะ เพราะลูกน้อยของคุณนั้นจะต้องเจอกับโลกภายนอกอีกมากมาย เราต้องมั่นใจว่า เรานั้นได้มีการดูแลเขาอย่างเต็มที่แล้ว นอกจากเรื่องการศึกษา เรื่องการเรียนรู้ อาหาร การกิน การพัฒนาเสริมทักษะต่างๆ แล้ว การดูแลเรื่องสุขภาพของเขา ก็สำคัญเช่นกันค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : รักลูก